ผลของชนิดภาชนะปลูก ปุ๋ย และการกำจัดรากโดยใช้อากาศต่อการผลิตต้นกล้า
ป่าไม้ในประเทศไทยได้หายไปอย่างรวดเร็ว สาเหตุใหญ่มาจากการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งถ้าปล่อยไว้ให้มีการฟื้นตัวตามธรรมชาติ จะต้องใช้เวลานานมาก จึงควรหาวิธีที่จะช่วยเร่งระยะเวลาในการฟื้นฟูป่าให้เร็วขึ้น วิธีการหนึ่งคือการปลูกป่าโดยใช้พรรณไม้ท้องถิ่นหลายๆชนิด ซึ่งจะให้ผลที่ดีก็ต่อเมื่อใช้ต้นกล้าที่มีคุณภาพในการปลูกป่า การศึกษาปัจจัยต่างๆ ในการผลิตต้นกล้าในเรือนเพาะชำ ได้แก่ ชนิดและขนาดของภาชนะปลูก วิธีการใส่ปุ๋ยและวิธีการในการกำจัดรากโดยใช้อากาศ ใช้พืชท้องถิ่น 3 ชนิด คือ หาด (Artocarpus lakoocha Roxb (Moraceae)) สลีนก (Balakata baccata (Roxb.) Ess. (Euphorbiaceae)) และ เลือดม้า (Horsfieldia thorelii Lec. (Myristicaceae)) โดยปลูกในภาชนะที่แตกต่างกัน 3 ชนิด คือ ถุงพลาสติกสีดำขนาด 2.5 x 9 นิ้ว และ 3 x 7 นิ้วและภาชนะดัดรากเร็กซ์เทย์ (REX tray) จัดเรียงต้นกล้าครึ่งหนึ่งบนโต๊ะตะแกรงลวดที่ถูกยกขึ้นจากพื้น 45 ซม. ส่วนที่เหลือตั้งลงบนพื้น ให้ปุ๋ย 2 ชนิดคือ ปุ๋ยละลายช้า "ออสโมโคต" (14-14-14) และปุ๋ยละลายน้ำ (15-15-15) มีการวัดประสิทธิภาพโดยการวัดความสูงและเส้นผ่านศูนย์กลางคอรากทุกเดือนเป็นเวลา 10 เดือน หลังจากนั้นตรวจสอบมีการเก็บตัวอย่างต้นกล้าเพื่อตรวจสอบลักษณะทางสัณฐานวิทยาของรากและเปรียบเทียบอัตราส่วนระหว่างรากต่อต้น
ถุงพลาสติกขนาด 3 x 7 นิ้ว ที่มี "ออสโมโคท" ทำให้ต้นกล้ามีคุณภาพดีที่สุด แม้ว่า ภาชนะดัดรากเร็กซ์เทย์ จะส่งเสริมลักษณะทางสัณฐานวิทยาของรากได้ดีกว่าถุงพลาสติกและให้ประโยชน์สูงสุด การเจริญเติบโตของต้นกล้าต่อการให้ปุ๋ยทั้งสองชนิดไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ต้นกล้าที่อยู่ภายใต้ร่มเงามีการเจริญเติบโตที่ต่ำมาก