FORRU
ห้องสมุด

การจำแนกชนิดพรรณไม้โครงสร้างที่ใช้สำหรับการฟื้นฟูระบบนิเวศป่าไม้ในจังหวัดเสียมราฐ

Language:
การจำแนกชนิดพรรณไม้โครงสร้างที่ใช้สำหรับการฟื้นฟูระบบนิเวศป่าไม้ในจังหวัดเสียมราฐ
Date:
2013-03
Author(s):
Sobon, K.
Publisher:
Graduate School, Royal University of Agriculture, Cambodia
Serial Number:
413
Suggested Citation:

Sobon, K. 2013. Identifying framework tree species for restoring forest eco-system in Siem Reap Province. Graduate School, Royal University of Agriculture, Cambodia.

บทคัดย่อ: การตัดไม้ทำลายป่าและความเสื่อมโทรมของป่าไม้เป็นปัญหาสำคัญของประเทศกัมพูชา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแสวงหาแนวทางใหม่ ๆ ในการฟื้นฟูป่าหรือระบบนิเวศป่าที่เสื่อมโทรม งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อระบุชนิดพรรณไม้โครงสร้างที่สำคัญสำหรับการฟื้นฟูระบบนิเวศป่าไม้ในจังหวัดเสียมราฐ โดยเปรียบเทียบศักยภาพในการเจริญเติบโตในพื้นที่ของชนิดไม้พื้นถิ่น ประเมินระดับที่ชนิดไม้แต่ละชนิดสอดคล้องกับเกณฑ์การคัดเลือกพรรณไม้โครงสร้าง และกำหนดมาตรฐานที่เหมาะสมสำหรับการคัดเลือกชนิดเพื่อการฟื้นฟูระบบนิเวศป่าไม้

การวิจัยดำเนินการ ณ สถานีฟื้นฟูและส่งเสริมป่าไม้ ในเขตกันชนภูเขาพนมกุเลน ซึ่งเป็นพื้นที่โครงการของหน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า ประเทศกัมพูชา (FORRU–Cambodia) ในแปลงทดลองที่ปลูกปี พ.ศ. 2553 และ 2554 โดยได้ทำการสำรวจพืชพรรณและวิเคราะห์ตัวอย่างดินก่อนปลูกชนิดไม้หลักที่คัดเลือก จากนั้นติดตามการรอดตาย การเจริญเติบโต และการตอบสนองต่อปุ๋ย การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรม MS Excel เพื่อคำนวณอัตราการเจริญเติบโตสัมพัทธ์ และใช้โปรแกรม SPSS เวอร์ชัน 19.0 สำหรับการวิเคราะห์ความแปรปรวน (ANOVA)

จากการศึกษาพบว่า พรรณไม้ 16 ชนิด จากทั้งหมด 19 ชนิด มีความเหมาะสมสำหรับการปลูกเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศป่าไม้ในพื้นที่ตอนเหนือของจังหวัดเสียมราฐ ในจำนวนนี้ 7 ชนิดมีศักยภาพในการรอดตายมากกว่า 70% หลังปลูกในพื้นที่เสื่อมโทรม 18 เดือน ได้แก่ คำมอกหลวง (Gardenia sootepensis Hutch) มะกอกเกลื้อน (Canarium subulatum Guill) พะยูง (Dalbergia cochinchinensis Pierre) ตะเคียน (Hopea odorata Roxb) แดง (Xylia xylocarpa (Roxb.)) มะค่าแต้ (Sindora siamensis Teysm. ex Miq. var. siamensis) และมะค่าหนาม (Sindora siamensis Teysm. ex Miq. var. cochinchinensis) นอกจากนี้ยังมีอีก 9 ชนิดที่มีศักยภาพปานกลาง โดยมีอัตราการรอดตายอยู่ในช่วง 50–69% แต่มีทรงพุ่มที่กว้าง และได้รับการประเมินว่ายอมรับได้สำหรับการปลูกเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศป่าไม้ ได้แก่ มะค่าโมง (Afzelia xylocarpa (Kurz) Craib) กระเบาเลือด (Knema globularia (Lam.) Warb) มะพลับ (Diospyros sylvatica Roxb) ตับเต่าต้น (Diospyros ehretioides Wall. ex G. Don) ติ้วเกลี้ยง (Cratoxylum cochinchinensis) การ์ดีเนีย (Gardenia angkorensis) กัดลิ้น (Walsura trichostemon Miq) มะคังแดง (Dioecrescis erythroclada (Kurz) Tirv) และ กระเบาใหญ่ (Hydnocarpus anthelmintica Pierre ex Laness)

ในแปลงทดลองปี พ.ศ. 2553 พบว่าการใช้ปุ๋ยเคมีบัฟฟาโลสูตร 15-15-15 และปุ๋ยอินทรีย์สูตร 10-5-2 ช่วยเพิ่มอัตราการรอดตายของกล้าไม้ได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม อัตราการรอดตายไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างชนิดไม้ การใช้ปุ๋ยเคมีบัฟฟาโลในอัตรา 100 กรัม ช่วยเพิ่มอัตราการรอดตายของกล้าไม้ได้มากกว่าการใช้ในอัตรา 50 กรัม และ/หรือการใช้ปุ๋ยอินทรีย์จากไต้หวัน ทั้งนี้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างการใส่ปุ๋ยและชนิดของต้นไม้ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แสดงให้เห็นว่าความแตกต่างระหว่างชนิดของต้นไม้ไม่ได้ได้รับผลกระทบจากปุ๋ย การใส่ปุ๋ยส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผ่านศูนย์กลางคอรากอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่แปลงทดลองปี พ.ศ. 2554 การใช้ปุ๋ยเคมีบัฟฟาโลสูตร 16-16-8 และปุ๋ยอินทรีย์สูตร 3-3-2 ช่วยเพิ่มอัตราการรอดตายของกล้าไม้ได้อย่างมีนัยสำคัญ และทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างชนิดไม้ การใช้ปุ๋ยเคมีบัฟฟาโลในอัตรา 50 กรัม มีผลต่อการเพิ่มอัตราการรอดตายของกล้าไม้มากกว่าการใช้ในอัตรา 100 กรัม และการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ อย่างไรก็ตาม ปฏิสัมพันธ์ระหว่างการให้ปุ๋ยกับการเจริญเติบโตด้านความสูงและเส้นผ่านศูนย์กลางคอรากไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ

ผลการวิจัยนี้มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อโครงการฟื้นฟูป่าไม้ในประเทศกัมพูชา รวมถึงหน่วยงานที่ดำเนินการ ได้แก่ กรมป่าไม้ สังกัดกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง กระทรวงสิ่งแวดล้อม และองค์กรพัฒนาเอกชน โดยให้ข้อมูลพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเลือกชนิดไม้ที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่จังหวัดเสียมราฐ และแนวทางเชิงทดลองในการคัดเลือกชนิดไม้บนพื้นฐานของเกณฑ์ที่มีเหตุผล ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้กับพื้นที่อื่น ๆ ได้