การใช้ความแปรผันของยีน STR เพื่อศึกษาโครงสร้างประชากรย่อยของก่อใบเลื่อม (Castanopsis tribuloides) ในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย

Thongkumkoon, P., J. Kampuansai, M. Dansawan, P. Tiansawat, N. Noirungsee, K. Punchay, N. Khamyong, P. Wangpakapattanawong. Population substructures of Castanopsis tribuloides in northern thailand revealed using autosomal STR variations. Plants 2025, 14, 2306. https://doi.org/10.3390/plants14152306
Contributors
การศึกษานี้มุ่งเน้นการสำรวจความหลากหลายทางพันธุกรรมและโครงสร้างประชากรของก่อใบเลื่อม (Castanopsis tribuloides) ซึ่งเป็นไม้ชนิดสำคัญในระบบนิเวศป่าของเอเชีย การทำความเข้าใจรูปแบบทางพันธุกรรมของชนิดพันธุ์ในระบบนิเวศมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการประเมินความยืดหยุ่นของป่าไม้ การทำงานของระบบนิเวศ และการวางแผนในการอนุรักษ์ โดยได้ทำการเก็บตัวอย่างประชากรจาก 3 พื้นที่ที่แตกต่างกันบนอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมทั้งภายในและระหว่างประชากรโดยใช้เครื่องหมายทางพันธุกรรมแบบ Short Tandem Repeat (STR) มีการสกัด DNA จากใบไม้และตรวจสอบโดยใช้ชุดของไมโครแซทเทลไลต์ (microsatellite loci) ที่ปรับให้เหมาะสมกับไม้ในวงศ์ก่อ หลังจากนั้น ได้ทำการวิเคราะห์ทางสถิติเชิงพันธุศาสตร์ประกอบด้วย การประเมินค่าทางนิติวิทยาศาสตร์ (เช่น จำนวนแอลลีล ความแปรผันทางพันธุกรรมที่สังเกตได้และที่คาดหวัง ความหลากหลายทางยีน และค่าข้อมูลพหุสัณฐาน) ดัชนีการแบ่งแยกประชากร (GST) ค่าสัมประสิทธิ์การผสมในสายเลือด (FIS) และการประมาณการการไหลของยีน (Nm) นอกจากนี้ยังได้ศึกษาประวัติของประชากรโดยการวิเคราะห์เหตุการณ์คอขวด (bottleneck) ด้วยแบบจำลอง 3 แบบ ได้แก่ IAM, SMM และ TPM พร้อมทั้งแสดงภาพความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมผ่านการวิเคราะห์พิกัดหลัก (PCA) และการวิเคราะห์แบบกลุ่ม (cluster analysis) ผลการศึกษาพบรูปแบบของโครงสร้างประชากรที่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ โดยดัชนีระยะทางทางพันธุกรรมแสดงความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างบางคู่ประชากร การวิเคราะห์ PCA และการจัดกลุ่มสนับสนุนการแยกประชากรที่สอดคล้องกับตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ งานวิจัยนี้เป็นการประเมินพันธุศาสตร์ประชากรของก่อใบเลื่อมที่ครอบคลุมเป็นครั้งแรกในภูมิภาคนี้ โดยเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการติดตามความหลากหลายทางพันธุกรรมและวางแผนกลยุทธ์การอนุรักษ์ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของภูมิประเทศและปัจจัยเชิงนิเวศที่มีอิทธิพลต่อรูปแบบความหลากหลายทางพันธุกรรมของไม้ป่าที่มีความสำคัญทางระบบนิเวศ และมีนัยสำคัญต่อการจัดการทรัพยากรพันธุกรรมป่าไม้ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมในอนาคต